พายุเฮอร์ริเคนวิลมา (พ.ศ.2548)
พายุเฮอร์ริเคนวิลมา (พ.ศ.2548)

พายุเฮอร์ริเคนวิลมา (พ.ศ.2548)

พายุเฮอริเคนวิลมา (อังกฤษ: Hurricane Wilma) เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้ในมหาสมุทรแอตแลนติกและเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงเป็นอันดับสองในซีกโลกตะวันตกที่มีการบันทึก อยู่อันดับรองจากพายุเฮอริเคนแพทริเซียในปี 2558 พายุเฮอริเคนวิลมาก่อตัวขึ้นในฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2548 ติดหนึ่งในสิบพายุเฮอริเคนที่ก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติกที่รุนแรงที่สุด (ในปีเดียวกันมีพายุเฮอร์ริเคนริต้าและพายุเฮอร์ริเคนแคทรีนา อยู่อันดับที่ 3 และ 7 ตามลำดับ), เฮอร์ริเคนวิลมาเป็นพายุลำดับที่ยี่สิบสอง, พายุเฮอริเคนลำดับที่สิบสาม, พายุเฮอริเคนใหญ่ลำดับที่หก และเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 5 ลำดับที่สี่ เริ่มแรกนั้นเป็นเพียงพายุดีเปรสชันเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียนใกล้ประเทศจาไมก้า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมพายุเฮอริเคนวิลมาได้เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก อีกสองวันต่อมาทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และหันไปทางทิศใต้อย่างฉับพลัน พายุเฮอริเคนวิลมายังคงเพิ่มความรุนแรงขึ้นและกลายเป็นพายุเฮอริเคนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม หลังจากนั้นไม่นานความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นและในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงพายุวิลมาก็กลายเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 5 ด้วยความเร็วลม 185 ไมล์ต่อชั่วโมง (295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)ระดับความรุนแรงของพายุลดลงอย่างช้า ๆ หลังจากกลายเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 5 และลดลงเป็น 150 ไมล์ต่อชั่วโมง (240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ก่อนที่จะไปถึงคาบสมุทรยูกาตันในวันที่ 20 และ 21 ตุลาคม หลังจากข้ามรัฐยูกาตัง พายุเฮอริเคนวิลมาอ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 2 ขณะที่เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็ว กลับค่อยๆ แรงขึ้นอีกครั้งเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 3 ในวันที่ 24 ตุลาคมหลังจากนั้นไม่นานก็ขึ้นฝั่งที่แหลมโรมาโน รัฐฟลอริดาด้วยความเร็วลม 120 ไมล์ต่อชั่วโมง (190 กิโลเมตร/ชั้วโมง) เมื่อพายุวิลมาข้ามผ่านรัฐฟลอริดา พายุอ่อนกำลังเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 2 แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อเคลื่อนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก พายุเฮอร์ริเคนทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 3 ก่อนที่จะอ่อนตัวลงขณะที่เคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมวิลมาได้อ่อนกำลังเป็นพายุไซโคลนทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา[1]เฮอร์ริเคนวิลมาขึ้นฝั่งหลายแห่ง โดยสร้างความเสียหายมากที่สุดในบริเวณคาบสมุทรยูกาตันของเม็กซิโก, คิวบาและในรัฐฟลอริดาของประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 รายและได้รับความเสียหายถึง 27.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา 19 พันล้านเหรียญสหรัฐ[1][2] หลังจากเฮอร์ริเคนวิลมาขึ้นฝั่งที่สหรัฐ พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ก็ไม่ได้ขึ้นฝั่งในสหรัฐอเมริกาอีก จนกระทั่งเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ขึ้นฝั่งที่แผ่นดินทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2560 เป็นเวลาประมาณ 11 ปี 10 เดือนให้หลัง ในช่วงเวลานี้เฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่สำคัญเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย พายุเหล่านั้นไม่ได้ขึ้นฝั่งที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้หลังจากเฮอร์ริเคนวิลมาไม่มีพายุเฮอร์ริเคนใดโจมตีรัฐฟลอริดา จนกระทั่งเฮอร์ริเคนเฮอร์มินขึ้นฝั่งในอีก 11 ปีต่อมาในปี 2559 และไม่มีพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ใด ๆ ขึ้นฝั่งที่ฟลอริดาจนกระทั่งเกือบ 12 ปีต่อมาเมื่อพายุเฮอริเคนเออร์มา ขึ้นฝั่งในต้นเดือนกันยายน 2560

ใกล้เคียง